วิธีต้านริ้วรอยสู่ผิวเต่งตึงสำหรับคุณผู้หญิง

คุณเคยสงสัยหรือไหมว่ารอยเหี่ยวย่น ริ้วรอยบนใบหน้าหน้าเกิดขึ้นได้อย่างไร ผิวพรรณที่ร่วงโรยและเกิดริ้วรอยนั้น เกิดจากความไม่สมดุลในการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนผิวเก่า โดยเฉพาะการสร้างโครงร่างคอลลาเจน ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นกระชับและเต่งตึง ส่งผลให้เกิดริ้วรอยบริเวณหางตา ที่เรียกกันว่า ตีนกา รวมทั้งรอยย่นบริเวณหน้าผาก และร่องแก้ม เป็นต้น

สาเหตุสำคัญที่ทำให้สมดุลในการสร้างและซ่อมแซมผิวเสียไป อาจเกิดจากหลายๆ ปัจจัยประกอบกัน อาทิ อายมากขึ้น กรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ อาหารการกิน ความเครียด สิ่งเสพติด รวมถึง การดูแลบำรุงผิวพรรณของแต่ละคนซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุให้เซลล์เสื่อมสภาพได้ทั้งสิ้น

แต่เราสามารถชะลอความแก่และต้านริ้วรอยต่างๆ เพื่อผิวที่เต่งตึงด้วยหลักง่ายๆ ดังนี้

หยุดทำร้ายผิว ศัตรูอันดับต้นๆ ของผิวคงหนีไม่พ้นแสงแดด ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรง โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00-15.00 น. เพราะช่วงนี้จะมีรังสีอัลตราไวโอเลตสูงสุด แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ควรจะหาเกราะป้องกันให้กับผิว เช่น การสวมหมวกหรือกางร่ม เพราะนอกจากปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว ยังป้องกันการหยีตา ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรอยตีนกาบริเวณหางตาให้มากขึ้น รวมทั้งหลีกเลี่ยงการนวดหน้าแรงๆ หรือบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าจุดเดิมซ้ำๆ เพราะจะทำให้มีรอยย่นเพิ่มมากขึ้น ใส่ใจอาหาร เลือกรับประทานอาหารให้ครบหมวดหมู่ โดยเฉพาะวิตามินเอ ซี และอี ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติชะลอการเสื่อมของผิวหนัง ขณะเดียวกันการเสริมอาหารที่มีประโยชน์อย่างรังนก ซึ่งมีการวิจัยพบว่า ประกอบด้วยโปรตีนแบบพิเศษที่มีโครงสร้างเหมือนกับ Epidermal Growth Factor ที่พบในคน โดยโปรตีนนี้จะทำหน้าที่ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับผิวพรรณ ยิ่งถ้าได้รับควบคู่กับคอลลาเจนที่เป็นปัจจัยสำคัญช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น นุ่มนวลช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิวให้เต่งตึงกระชับ ป้องกันผิวเหี่ยวย่นและรอยตีนกา ก็จะยิ่งทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพดียิ่งขึ้น รวมทั้งดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ และงดเว้นการสูบบุหรี่ ดื่มชากาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทั้งหลาย ซึ่งเป็นตัวทำลายเซลผิวหนังให้เสื่อมเร็วกว่าวัยอันควร พักผ่อน ออกกำลังกาย คลายเครียด การพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส และการออกกำลังกายก็มีความสำคัญไม่น้อย เพราะช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ผิวหนังได้รับสารอาหารและออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น ส่วนการทำจิตใจสดใสคลายเครียดนั้นก็เหมือนการผ่อนคลายกล้ามเนื้อไปในตัว